สมมติอายุปัจจุบันของคุณอยู่ที่ 35 ปี เกษียณอายุตอน 60 ปี ดังนั้นคุณมีเวลาเก็บเงินทั้งสิ้น 25 ปี กำหนดอายุขัยอยู่ที่ 85 ปี โดยเงินเก็บตรงนี้ คุณก็จะนำไปลงทุนในสินทรัพย์คาดหวังผลตอบแทนที่ 4% กำหนดอัตราเงินเฟ้อที่ 3% ซึ่งก็คือลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อนั่นเอง เรามาดูตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายกันครับ

ตัวอย่างที่ 1 :  คุณใช้จ่ายหลังเกษียณต่อเดือน เดือนละ 20,000 บาท จากกราฟ จะเห็นว่าเงินเก็บ 10 ล้านบาท จะค่อยๆ ลดลงทุกปี และเงินจะไปหมดเมื่อคุณอายุ 81 ปี

ตัวอย่างที่ 2 : หากคุณมีพฤติกรรมการใช้จ่ายต่อเดือนที่มากขึ้น เป็นเดือนละ 40,000 บาท จากเงิน 10 ล้านบาทเท่ากัน เงินของคุณจะหมดเมื่ออายุ 70 ปี 

จะเห็นนะครับว่า ทั้ง 3 ตัวอย่าง เงินหมดก่อน ไม่สามารถที่จะเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณได้เพียงพอที่อายุขัย 85 ปี ดังนั้น คุณควรที่จะต้องวางแผนเรื่องการลงทุน เช่น เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 4% (คำนวณจากตัวอย่าง) เพราะบางครั้งการลงทุนแค่เพื่อให้ชนะเงินเฟ้อ ก็อาจไม่เพียงพอสำหรับไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ แต่ทั้งนี้ก็ควรต้องพิจารณาความเสี่ยงจากการลงทุนควบคู่ด้วย

และในชีวิตเรานะครับ ก็ไม่ได้มีเป้าหมายการเงินแค่เรื่องการเกษียณแต่เพียงอย่างเดียว เรายังมีเป้าหมายการเงินอื่นๆ ทั้งเป้าหมายการเงินสำหรับตัวเอง ครอบครัว เป้าหมายที่จะซื้อบ้านซื้อรถ ซึ่งหากคุณมีเป้าหมายทางการเงินหลายอย่างที่จะต้องทำ สิ่งที่จะช่วยคุณได้นั่นคือ การแบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ระยะ และเลือกที่จะทำเป้าหมายที่สำคัญและจำเป็นก่อน โดย
- เป้าหมายระยะสั้น : เป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จภายใน 3 ปี เช่น เก็บเงินท่องเที่ยว  
- เป้าหมายระยะกลาง : เป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จภายใน 3-5 ปี เช่น เก็บเงินแต่งงาน
- เป้าหมายระยะยาว : เป้าหมายที่ต้องใช้ระยะเวลาทำให้สำเร็จมากกว่า 7 ปีขึ้นไป เช่น วางแผนเก็บเงินเพื่อการเกษียณ

ซึ่งเป้าหมายระยะยาวนี้เองที่มักถูกมองข้าม เพราะเข้าใจว่ายังเหลือระยะเวลาอีกนานกว่าจะใช้เงิน ถึงเวลาเมื่อเรามาเก็บเงินใกล้เกษียณก็พบว่าไม่ทันเสียแล้ว ดังนั้น การวางแผนเก็บเงินเพื่อการเกษียณจึงถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญและจำเป็น ควรเลือกทำควบคู่ไปกับเป้าหมายอื่นๆ อย่าลืมนะครับว่า การวางแผนเกษียณ ใครเริ่มวางแผนได้เร็ว คุณก็จะมีเงินเก็บได้เร็วมากขึ้นเท่านั้นครับ

สรุปทิศทางราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันถูกเทขายลงมาที่ ราวๆ 42-43 ดอลลาร์ กลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นหลักๆ มาจากตลาดเริ่มไม่เชื่อมั่นว่า ข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตระหว่าง OPEC และ non-OPEC จะทำได้จริงและตรึงกำลังการผลิตได้จริง ถึงแม้จะมีการขยายระยะเวลาตรึงกำลังการผลิตออกไปถึงปีหน้าก็ตาม