Money

Passion Investment
เปย์อย่างไรให้ได้ทั้งความสุข
และต่อยอดเป็นการลงทุน

Post by | Admin

Passion-Investment_628x443

หลังจากทำงานหนักมาทั้งปี เมื่อถึงเวลาก็ต้องให้รางวัลกับตัวเองบ้าง หากพูดถึงของขวัญของรางวัลก็ต้องเป็นของที่เราอยากได้จริงๆ แต่ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ น่าจะต้องดูในแง่ความคุ้มค่าด้วย เพื่อให้ของขวัญมอบทั้งความสุขทางใจและต่อยอดเป็นการลงทุนได้อีกด้วย

ในโลกของการลงทุนนอกจากสินทรัพย์ทางการเงินที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้วเช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือกองทุนรวม ยังมีการลงทุนอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า Passion Investment คือการซื้อของบางอย่างจากความชื่นชอบเพื่อใช้งานหรือเก็บสะสม และนับเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อมองเป็นการลงทุนนั้นจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานและเก็บรักษา รวมทั้งการศึกษาข้อมูลว่ามีหลักในการเลือกซื้ออย่างไรบ้าง ลองมาดูตัวอย่างกัน

1. เพชรหรือเครื่องประดับที่ประกอบด้วยเพชร
เครื่องประดับที่ประกอบด้วยเพชร ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีทั้งความสวยงาม มีคุณค่าทางใจ และมีแนวโน้มที่มูลค่าจะสูงขึ้นในระยะยาว สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ จึงถือเป็นทางเลือกการลงทุนอีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบอัญมณีชนิดนี้อยู่แล้ว 

การเลือกซื้อเพชรด้วยหลัก 4C เป็นการดูลักษณะของเพชร 4 อย่างประกอบด้วย 
Carat – น้ำหนักของเพชร โดยเพชร 1 กะรัตมีน้ำหนัก 0.2 กรัม หรือเท่ากับ 100 สตางค์ เพชรยิ่งขนาดใหญ่ก็ยิ่งหายาก ทำให้เพชรที่ขนาดใหญ่ขึ้นราคาจะสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
Colour – สีหรือน้ำของเพชร เป็นตัวบอกความขาวของสีเพชร ยิ่งเป็นเพชรขาวที่เรียกว่าเพชรน้ำ 100 หรือ D colour ยิ่งราคาสูง
Clarity – ความสะอาดของเพชร เป็นตัวบ่งบอกว่าเพชรมีตำหนิมากหรือน้อย ตำหนิใหญ่หรือเล็ก และอยู่ในจุดที่เห็นชัดหรือไม่
Cut – การเจียระไน เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพในการเจียระไน ในแง่พื้นผิว สัดส่วน และ ความสมมาตร ที่จะทำให้เพชรประกายแสงได้ดีที่สุด

สำหรับเพชรที่เหมาะแก่การลงทุนนั้น ควรเลือกเพชรที่มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากสถาบันที่เป็นสากล เช่น GIA หรือ HRD ซึ่งจะรับรองคุณภาพของเพชรที่มีขนาดตั้งแต่ 0.3 กะรัตขึ้นไปด้วยหลัก 4C อย่างที่กล่าวถึงข้างต้น และทำให้เพชรมีความคล่องตัวในการขายต่อในอนาคต

2. กระเป๋าแบรนด์เนม
การลงทุนทางเลือกที่น่าจะตอบโจทย์สำหรับสายแฟชั่น ที่นอกจากจะได้ซื้อ ได้ใช้กระเป๋าที่ชอบแล้ว ยังสามารถนำมาขายต่อ และสร้างผลตอบแทนได้ด้วย

ในการเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมสำหรับลงทุน อันดับแรกที่ควรพิจารณาคือแบรนด์ ควรเลือกแบรนด์ที่มีนโยบายชัดเจนว่าไม่มีการทำโปรโมชั่นโดยการลดราคาเด็ดขาด และอาจมีการขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะทำให้กระเป๋าที่ซื้อมานั้นสามารถขายต่อได้ในราคาที่อาจจะสูงกว่าราคาที่ซื้อมา

นอกจากนี้ รุ่นของกระเป๋าเป็นก็อีกปัจจัยที่ต้องศึกษา เพราะไม่ใช่สินค้าทุกรุ่นของแบรนด์ดังจะได้รับความนิยมและรักษาราคาให้สูงได้ตลอดเวลา รุ่นคลาสสิคของแต่ละแบรนด์มักจะเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอและมีการออกแบบให้สามารถใช้งานได้ง่ายกว่าจึงเหมาะแก่การลงทุนมากกว่า ในขณะที่กระเป๋าฮิตตามกระแส หรือ กระเป๋า Vintage อาจมีความนิยมบางช่วงเวลา การเลือกลงทุนในกระเป๋าประเภทนี้จึงต้องรอจังหวะเวลาหากอยากขายให้ได้ราคาดี

ทั้งนี้ควรศึกษาแหล่งซื้อขายที่เชื่อถือได้ รวมทั้งเก็บอุปกรณ์ กล่อง การ์ด หรือใบเสร็จต่างๆ ที่มาพร้อมกับกระเป๋า เพราะเป็นสิ่งที่ผู้รับซื้อมักพิจารณาประกอบการตัดสินใจหรือตีมูลค่าด้วยเช่นกัน


3. เครื่องประดับจากทองคำ 

เครื่องประดับที่ประกอบด้วยโลหะมีค่าถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าลงทุน โดยเฉพาะทองคำซึ่งเป็นแร่โลหะชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติทั้งในด้านความสวยงาม ความคงทน สามารถใช้เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งความหายาก ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวเหล่านี้ ทำให้ทองคำยังคงรักษามูลค่าในตัวของมันเองมาจนถึงปัจจุบัน จึงถูกนำมาใช้ในการสะสมความมั่งคั่ง รวมทั้งทำกำไรจากการปรับขึ้นลงของราคา

สำหรับเครื่องประดับที่ทำจากทองซึ่งให้ประโยชน์ทั้งในแง่การใช้งานและการลงทุนถูกจัดว่าเป็นทองรูปพรรณเช่น สร้อย แหวน กำไร ต่างหู เป็นต้น ซึ่งมีการออกแบบที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในหลายโอกาส 

ทองรูปพรรณสามารถเลือกซื้อได้ตามน้ำหนักทอง ซึ่งมักกำหนดเป็นบาท ทองรูปพรรณ 1 บาทมีน้ำหนัก 15.16 กรัม ราคาในการซื้อขายมักขึ้นลงตามปัจจัยต่างๆ ทั้งราคาทองในตลาดโลก ค่าเงินบาทเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมทั้งค่ากำเหน็จของทองแต่ละแบบ และเนื่องจากการสวมใส่อาจทำให้เกิดการสึกกร่อนได้ เมื่อมีการขายคืนร้านทองมักมีการหักค่าเสื่อม ทองรูปพรรณจึงเหมาะแก่การลงทุนระยะยาวมากกว่าระยะสั้น

4. โมเดลฟิกเกอร์
โมเดลฟิกเกอร์คือของเล่นหรือของสะสมที่เป็นแบบจำลอง ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่โมเดลรถหรู เครื่องบิน เรือรบ รวมทั้งคาแรคเตอร์จาก ภาพยนตร์ อนิเมะ หรือ เกมส์ต่างๆ นอกจากมอบความสุขในการเก็บสะสมแล้ว ยังถือเป็นงานอดิเรกได้ เพราะตัวโมเดลจะมาในรูปแบบชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ให้ผู้ซื้อได้ลงมือประกอบและลงสีด้วยตัวเอง

ด้วยความสมจริงของโมเดล และ ความละเอียดของการสร้างชิ้นงาน ทำให้เป็นของเล่นที่มีราคาค่อนข้างสูง และมีตลาดในกลุ่มผู้ที่ต้องการสะสมของเหล่านี้ให้ครบเป็นคอลเลกชัน ยิ่งถ้าเป็นของ Limited Edition ที่หายาก หรือไม่มีการผลิตขึ้นใหม่แล้ว บางรุ่นราคาอาจขึ้นไปถึงหลักหมื่นหลักแสนได้เลยทีเดียว โมเดลฟิกเกอร์จึงเป็นของสะสมที่มีมูลค่าและสามารถทำกำไรให้ได้ จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนเช่นกัน


นอกจากตัวอย่างที่เรายกมาแล้วยังมีของสะสมอีกหลายชนิดที่สามารถซื้อมาเพื่อเก็บสะสมและต่อยอดเป็นการลงทุนได้ ข้อมูลจาก Knight Frank บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนระดับโลกพบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ได้แก่ วิสกี้หายาก รถคลาสสิก ไวน์ และ กระเป๋า
(ที่มา : https://content.knightfrank.com/research/83/documents/en/the-wealth-report-2021-7865.pdf)

จะเห็นได้ว่าการเลือกให้รางวัลกับตัวเองอย่างชาญฉลาดสามารถให้ได้ทั้งความสุขทางใจที่ได้ซื้อหรือได้เป็นเจ้าของ และยังเปลี่ยนจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นโอกาสในการทำกำไรจากสิ่งที่เราชอบได้อีกด้วย

สรุปทิศทางราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันถูกเทขายลงมาที่ ราวๆ 42-43 ดอลลาร์ กลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นหลักๆ มาจากตลาดเริ่มไม่เชื่อมั่นว่า ข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตระหว่าง OPEC และ non-OPEC จะทำได้จริงและตรึงกำลังการผลิตได้จริง ถึงแม้จะมีการขยายระยะเวลาตรึงกำลังการผลิตออกไปถึงปีหน้าก็ตาม

Suggested
17 Jan 2022
ลดหย่อนภาษี ด้วยดอกเบี้ยบ้าน
Money
06 Jan 2022
สอนเด็กยุคใหม่ให้ใส่ใจเรื่องการเงิน
Money
24 Dec 2021
มีเงิน 10 ล้าน ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้กี่ปี?
Money
03 Dec 2021
6 เรื่องการเงินต้องทบทวน ก่อนส่งท้ายปี
Money