Money
ชะตาเศรษฐกิจไทย ใต้เงาสงครามเทคโนโลยี
Post by | Admin

Key Takeaways:
- KKP Research โดยกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรวิเคราะห์ว่า การแข่งขันและความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและจีน จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นและจะเป็นจุดสำคัญที่จะชี้ชะตาว่าใครจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในทศวรรษข้างหน้าโดยจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งในครั้งนี้จะอยู่ใน 3 ที่เทคโนโลยีสำคัญได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ 5G และ Cyber security
- ห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์มีความเปราะบางต่อความเสี่ยงด้าน supply shock และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์นั้นกระจุกตัวอยู่แค่ใน 6 แหล่งเท่านั้น ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้
- หากมาตรฐานของเทคโนโลยี 5G หรือโลกของอินเตอร์เน็ตถูกตัดขาดหรือแยกออกเป็นสองค่ายจริง ๆ อาจทำให้ต้นทุนการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นส่งผลทำให้ผลิตภาพของโลกลดลงและอาจเร่งทำให้ห่วงโซ่อุปทาน การลงทุน และการค้าโลก เกิดการสับเปลี่ยนมากขึ้น
- KKP Research มองว่าการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯกับจีนรวมไปถึงความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ อาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจไทยใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานของการผลิตและราคาสินค้า 2) ความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ 3) ความเสี่ยงต่อการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ
- ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรมีการติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางด้านเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิดและภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อปรับตัวให้พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ รวมไปถึงลงทุนเพื่อพัฒนา soft infrastructure ได้แก่ ระบบฐานข้อมูล และ High-speed broadband