Money

3 สิ่ง.. การจัดการทางการเงินที่ควรรู้ ช่วงวิกฤต COVID-19

Post by | Admin

3-สิ่ง…628x443

แม้ช่วงนี้การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา หรือที่เราเรียกกันว่า COVID-19 จะมีการเพิ่มจำนวนแบบชะลอตัวลง

แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาครั้งนี้ เป็นสิ่งที่กระทบความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ หน้าที่การงาน สถานะทางการเงิน หรือแม้กระทั่งส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ธุรกิจห้างร้านหลายแห่งมีการประกาศปิดชั่วคราวโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวของมวลชน หลายคนขาดรายได้ต้องดึงเงินเก็บออกมาใช้ เราในฐานะคนที่ได้รับผลกระทบ ควรจะมีวิธีการจัดการหรือวางแผนการเงินของตัวเองอย่างไร ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้ เราไปติดตามกันต่อจากบทความนี้กันเลยค่ะ

3-สิ่ง…628x443_01

1. วางแผนเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน

ควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายในแต่ละเดือนกรณีเป็นมนุษย์เงินเดือน และอย่างน้อย 12 เท่าของรายจ่ายกรณีทำงานอิสระหรือ freelance และช่วงนี้ก็ถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่คุณอาจต้องนำเงินเก็บออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นต้องซื้อหน้ากาก เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์ทำความสะอาด บางคนอาจนำเงินตรงนี้ไปซื้อประกัน COVID-19 ให้ทั้งตนเองและครอบครัว ก็ถือเป็นการใช้เงินส่วนนี้อย่างคุ้มค่า เพราะเป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงที่เราอาจได้รับไปยังบริษัทประกัน หรือในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด บางคนอาจตกงาน คุณก็ยังมีเงินสดสำรองฉุกเฉินเป็นตัวช่วยระหว่างที่รอหางานใหม่ 

3-สิ่ง…628x443_02

2. ฝึกจดบัญชีรายรับรายจ่าย 

สิ่งนี้จะทำให้คุณทราบว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนถูกใช้ไปกับสิ่งใดมากที่สุด ในช่วง COVID-19 หลายคนเริ่มแพลนการใช้จ่ายแบบรัดเข็มขัดมากขึ้น เริ่มประหยัดและลดการใช้จ่าย เพราะเริ่มเห็นความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นของรายได้ สิ่งเหล่านี้ เราอยากชวนคุณในลองนึกถึงสถานการณ์ปกติ ว่าคุณมีพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างไร? มีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือนบ้างหรือไม่?

บางครั้งเราก็มีพฤติกรรมการใช้จ่ายสิ่งฟุ่มเฟือยโดยไม่รู้ตัว หรือที่เรียกกันว่าเป็น Latte Factor บางคนอาจใช้เงินเดือนชนเดือนและไม่เคยมีเงินเหลือเก็บเลย และคนส่วนใหญ่มักจะมาเห็นความสำคัญของการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นก็คือในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งบางครั้งอาจไม่ทันการณ์ จะดีกว่าไหมถ้าเราเตรียมความพร้อมในการใช้จ่ายเงินไว้แต่เนิ่นๆ หรือบางคนอาจมีภาระหนี้สินที่ต้องชำระ เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนค่าใช้จ่ายประกอบธุรกิจ หากคุณมีภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบมากเกินไป ในภาวะเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อสภาพคล่อง บางคนอาจหมุนเงินไม่ทัน ดังนั้น หากคุณมีการจัดการภาระหนี้สินในสัดส่วนที่พอเหมาะกับรายได้และภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือจัดสรรแบบพอเพียง ก็อาจช่วยให้คุณคลายกังวลหากต้องเจอสถานการณ์เช่นนี้

3-สิ่ง…628x443_03

3. เพิ่มช่องทางการหารายได้และเพิ่มความรู้เรื่องการลงทุน

ในช่วง COVID-19 นี้ หลายคนหารายได้เสริมจากการขับ Grab Food หรือ Delivery ซึ่งกำลังได้รับความนิยม หลายคนอาจใช้บริการแพลตฟอร์มที่เป็น Marketplace ในการฝากร้านขายของ ฝากเพจต่างๆ ที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับคุณ ซึ่งหากในสถานการณ์ฉุกเฉินที่องค์กรหรือบริษัทของคุณมีการปิดตัวหรือเลิกจ้าง คุณก็ยังมีรายได้ส่วนนี้ไว้รองรับ

และอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณควบคู่ไปกับงานประจำ นั่นก็คือ การลงทุน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ มีทั้งการลงทุนด้วยตนเองและการลงทุนผ่านผู้เชี่ยวชาญ เช่น การลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งก็ยังมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเภทกัน ลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และบางการลงทุนก็ยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกลับมาด้วย ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจลงทุน คุณควรศึกษาหาความรู้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะการลงทุนก็เป็นตัวช่วยหนึ่งในการสร้างรายได้และสร้างความมั่งคั่งให้คุณในระยะยาวได้ 


ไม่มีใครรู้ว่าหากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจบลง การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิมต้องใช้เวลานานเท่าใด แต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนรู้และสามารถทำได้ นั่นคือ การแสดงความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคมเพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ หากเรามองในมุมบวก แม้ COVID-19 จะเป็นวิกฤต แต่สถานการณ์นี้ ก็ทำให้ใครหลายคนมีเวลาได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น มีเวลาสนใจดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น มีโอกาสได้เป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น และที่สำคัญมีเวลาได้คิดเตรียมความพร้อมจัดการทางการเงินของตนเองได้มากขึ้น…เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน 

แนวโน้มของราคาทอง

มั่นว่า ข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตระหว่าง OPEC และ non-OPEC จะทำได้จริงและตรึงกำลังการผลิตได้จริง ถึงแม้จะมีการขยายระยะเวลาตรึงกำลังการผลิตออกไปถึงปีหน้าก็ตาม

 

ไปดูเหตุผลที่ตลาดไม่เชื่อ หนึ่งในนั้นก็เพราะ กำลังการผลิตนอกกลุ่ม OPEC ก็ยังเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสหรัฐ จากตัวเลขแท่นขุดเจาะรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แทบทุกสัปดาห์ตั้งแต่ย่างเข้าไป 2017 เป็นต้นมา รวมถึงการเดินกำลังการผลิต Shale Oil และ Shale Gas ที่สะท้อนว่า ต้นทุนการผลิตของเทคโนโลยีนี้ เข้ามาใกล้จุดที่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตน้ำดิบได้แล้วถ้ามองภาพใหญ่กว่านั้น ราคาน้ำมันก็โดนกดดันอยู่มาอย่างต่อเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาด หรือ Clean Energy โดยเทคโนโลยีที่จะมาเป็นคู่แข่งพลังงานน้ำมันจริงๆ ก็คือ Power Storage หรือ ตัวเก็บประจุไฟฟ้า นั้นเอง เพราะตัวเก็บประจุไฟฟ้า หรือ Power Storage จะทำให้การใช้พลังงานสะอาดมีเสถียรภาพมากขึ้น ยกตัวอย่าง ถ้าใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แต่ไม่มีตัวเก็บประจุ ก็แปลว่า เราจะใช้ไฟฟ้าได้แค่ตอนช่วงกลางวันเท่านั้น ดังนั้น เทคโนโลยี Power Storage จึงถือว่ามีความสำคัญ และเป็นจุดเปลี่ยนอีกหนึ่งอย่างที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานสะอาดต่ำลงไปอีก และเข้าถึงคนจำนวนมากกว่าปัจจุบัน

สรุปทิศทางราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันถูกเทขายลงมาที่ ราวๆ 42-43 ดอลลาร์ กลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นหลักๆ มาจากตลาดเริ่มไม่เชื่อมั่นว่า ข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตระหว่าง OPEC และ non-OPEC จะทำได้จริงและตรึงกำลังการผลิตได้จริง ถึงแม้จะมีการขยายระยะเวลาตรึงกำลังการผลิตออกไปถึงปีหน้าก็ตาม

Suggested
30 Apr 2020
Emergency Fund เงินสำรองฉุกเฉินที่ทุกคนต้องมี
Money
20 Mar 2020
เศรษฐกิจแบบนี้ควรลงทุนอย่างไรดี!
Investment
18 Mar 2020
3 ข้อง่ายๆ วางแผนการเงินสไตล์ฟรีแลนซ์
Money