แต่ถ้าโอกาสมาถึงแล้วจะเริ่มเก็บเงินก็คงไม่ทัน การขอสินเชื่อจึงเป็นตัวเลือกที่เหลืออยู่ สำหรับคนที่มีหนี้อยู่แล้วอาจกังวลว่าจะไม่สามารถกู้ในระบบได้ และหันไปกู้นอกระบบแทน แต่จริงๆ แล้วถ้าคุณมีรถ ไม่ว่าจะผ่อนหมดแล้วหรือรถยังผ่อนรถอยู่ คุณก็ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกนั่นคือนำรถมารีไฟแนนซ์กับสินเชื่อรถเรียกเงิน ซึ่งบทความนี้จะเปรียบเทียบให้เห็นว่า ระหว่างการกู้เงินนอกระบบกับการขอสินเชื่อรถเรียกเงิน มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง

- อัตราดอกเบี้ย
การกู้นอกระบบมีวิธีคิดดอกเบี้ยและการผ่อนชำระที่หลากหลาย เช่น ผ่อนชำระดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเงินต้นมาคืนทั้งก้อน หรือผ่อนแต่ดอกเบี้ยก่อนเดือนละ 10% เป็นเวลา 10 เดือน แล้วค่อยผ่อนคืนเงินต้นเดือนละ 10% ในอีก 10 เดือนต่อมา เป็นต้น ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ หรืออาจเห็นแค่จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนเท่านั้น แต่พอลองคำนวณแล้วจะพบว่าอัตราดอกเบี้ยนั้นสูงกว่าการกู้สินเชื่อรถเรียกเงินเยอะมาก 

- รูปแบบสัญญากู้ยืม
สัญญาของการกู้ยืมนอกระบบมักไม่เป็นมาตรฐานหรือไม่มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร จึงมักเกิดความไม่เป็นธรรมกับลูกหนี้ ต่างจากการกู้ในระบบที่รายละเอียดสัญญาชัดเจน และที่สำคัญคืออยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่าผู้กู้จะไม่ถูกเอาเปรียบ ตรวจสอบรายชื่อแอปกู้เงินที่ได้รับอนุญาตถูกต้องได้ที่นี่

- หลักประกัน
การกู้นอกระบบอาจไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ส่วนสินเชื่อรถเรียกเงินเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้รถในการขอสินเชื่อ จึงมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน และได้วงเงินก้อนใหญ่ที่สูงเพียงพอกับความต้องการ

ได้เห็นข้อดีข้อเสียตามที่กล่าวมาแล้ว หากเจ้าของรถสนใจสินเชื่อรถเรียกเงินที่ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 150%* ของราคาประเมินรถยนต์ ผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน ไม่ว่ารถของคุณจะผ่อนหมดแล้วหรือกำลังผ่อนอยู่ก็สามารถนำรถมารีไฟแนนซ์ได้ สามารถศึกษารายละเอียดสินเชื่อรถเรียกเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด