Money
เศรษฐกิจแบบนี้ควรลงทุนอย่างไรดี!
Post by | Admin

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เศรษฐกิจไทยค่อนข้างได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหาภายในประเทศเองทั้ง ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงปัญหาจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก
บริษัทบางแห่งเริ่มขอให้พนักงานหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้างหรือจ่ายค่าจ้างบางส่วน ทำให้หลายๆ คนเริ่มตั้งคำถามว่า
"ควรถือเงินสดไว้ในมือแทนหรือเปล่า"
"การลงทุนในขณะนี้ยังจำเป็นอยู่หรือไม่"
"แล้วเราควรลงทุนอย่างไร"
ความจริงแล้วการลงทุนยังคงมีความจำเป็นอยู่ เพราะหากเราถือเงินไว้เฉยๆ มูลค่าของเงินก็ลดลงอยู่ดี ด้วยสาเหตุมาจากเงินเฟ้อ
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ควรลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน เช่น เงินสดหรือเงินฝากธนาคาร, ตราสารหนี้, ตราสารทุน และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ หรือ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
เพราะไม่มีสินทรัพย์ใดจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ตลอดเวลา การมีสินทรัพย์หลายประเภทจะช่วยชดเชยการขาดทุนหนักๆจากสินทรัพย์ประเภทเดียวได้
นอกจากนี้ในการกระจายการลงทุนก็ไม่ควรจำกัดการลงทุนอยู่แต่ในประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่เกิดจากสาเหตุที่มีผลเฉพาะประเทศนั้นๆ
สิ่งสำคัญในการลงทุนแบบ Asset Allocation ก็คือการเลือกสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้ เช่น หากยังมีอายุน้อยและมีเงินเดือนประจำ ก็จะสามารถรับความเสี่ยงได้มาก ในขณะที่คนวัยใกล้เกษียณจะรับความเสี่ยงได้ลดลงแล้ว
ฟังดูเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่ไม่ใช่น้อย ยิ่งถ้าเราไม่มีเวลา หรือไม่มีเงินจำนวนมากๆ การทำ Asset Allocation ที่ต้องคอยติดตามลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ ตัวในเวลาเดียวกันคงเป็นเรื่องลำบากอยู่เหมือนกัน
แต่ในปัจจุบันเราสามารถกระจายการลงทุนได้ เพราะมีกองทุนหลายกอง จากบลจ. หลายแห่ง ที่ออกมาเป็นกองทุนในลักษณะ Asset Allocation ก็คือมีการกระจายการลงทุนไปในหลายๆ สินทรัพย์
กองทุนแบบนี้ทำให้เราไม่ต้องลงทุนเองเป็นรายตัว และยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยติดตามสถานการณ์การลงทุน และการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งการลงทุนในกองทุนเพียงกองเดียวทำให้ไม่ต้องใช้เงินตั้งต้นในการลงทุนมากอีกด้วย และบางกองทุนก็มีการแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย บลจ.ที่มองไกลไปถึงการรับความเสี่ยงได้แตกต่างกันของผู้ลงทุนแต่ละคน จึงได้พัฒนากองทุนแบบ Asset Allocation มาหลายกอง เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตนเอง อย่างเช่น Phatra Asset Allocation ที่มีกองทุนให้เลือกถึง 4 กองทุน ทั้งหมดลงทุนภายใต้แนวคิดแบบ Asset Allocation ซึ่งครอบคลุมระดับความเสี่ยงตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงสูงมาก และยังมีการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศอีกด้วย
สำหรับในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนอย่างนี้ นอกจากจะลงทุนแบบ Asset Allocation แล้ว การมีเงินสำรองให้เพียงพอก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากเราถูกเลิกจ้าง หรือถูกขอให้หยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง เราก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินสำรองในส่วนนี้
โดยอาจเลือกถือเป็นเงินสดบางส่วน และฝากเงินไว้ในบัญชีที่เบิกถอนง่ายอย่างบัญชีออมทรัพย์บางส่วนก็ได้ ปัจจุบันมีบัญชีออมทรัพย์แบบพิเศษหลายตัวที่นอกจากจะมีความสะดวกในการเบิกถอนแล้ว ยังให้อัตราดอกเบี้ยสูงอีกด้วย ถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการฝากออมทรัพย์แบบธรรมดา แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูเงื่อนไขของบัญชีด้วยว่าเหมาะกับพฤติกรรมการเบิกถอนของตนเองหรือไม่
ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย การลงทุนสร้างผลตอบแทนยังคงมีความจำเป็นอยู่ เพียงแต่ต้องเลือกลงทุนให้ถูกที่ อย่าลงเงินไปในการลงทุนแบบเดียว และต้องอย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน