1. สัมผัสป่าเขียวขจี ดอกไม้สีหวาน และน้ำตกสุดสดชื่นที่ ‘ภูสอยดาว’ 

ภูสอยดาว หนึ่งในหมุดหมายโปรดของสายเดินป่า คลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์และพิษณุโลก โดดเด่นด้วยลานสนสามใบที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก นอกจากนี้ ช่วงสิงหาคมถึงกันยายนของทุกปี ยังเป็นฤดูที่ดอกหงอนนาคจะบานสะพรั่งและเปลี่ยนท้องทุ่งบริเวณนั้นให้กลายเป็นสีม่วงอ่อนสุดละมุนตา แถมยังมีดอกสร้อยสุวรรณาและดอกหญ้ารากหอมที่สวยเย้ายวนชวนให้เราถ่ายรูปได้ไม่เบื่อ ทั้งยังมีทั้งน้ำตกภูสอยดาวและน้ำตกสายทิพย์ที่สวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน คนรักธรรมชาติต้องไม่พลาดที่นี่เลย มีทุกอย่างครบ 

อุทยานแห่งชาติไทรทอง ณ จังหวัดชัยภูมิ ที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่อง ‘ทุ่งดอกกระเจียว’ ที่แต่งแต้มสีชมพูสลับขาวให้กับท้องทุ่งที่ล้อมด้วยต้นเต็งรังได้อย่างงดงามเพลินตาเพลินใจ ซึ่งช่วงที่ตระการตาที่สุดคือช่วงฤดูฝนนี่เอง (เดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม) ถ้าใครอยากลุยขึ้นอีกนิด ที่นี่ก็มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติยาว 2 กิโลเมตร โดยมีไฮไลต์เป็นน้ำตกมากมายทั้งน้ำตกไทรทอง น้ำตกบุษบากร และน้ำตกชวนชม รวมไปถึงผาพิมพ์ใจ ดงเฟิร์นข้าหลวงหลังลาย และพันธุ์ไม้ที่สวยงามอื่นๆ อีกเพียบ แถมยังเดินง่าย ไม่ลำบากจนเกินไปด้วย 

3. เดินป่าฟีล  พร้อมโอกาสชมทะเลหมอกที่ ‘ดอยหลวงตาก’ 

โดนใจสายลุยแน่ๆ สำหรับดอยหลวงตาก ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จังหวัดตาก โดยเส้นทางนี้นักเดินป่ามักจะบรรยายไว้ว่าเหมือนไปเดินเล่นสวนหลังบ้าน เพราะเดินไม่ค่อยยากและไม่ชันจนเกินไป จึงไปลุยช่วงหน้าฝนได้อย่างปลอดภัย แต่ต้องเตรียมใจไว้ก่อนว่าระยะทางตั้งแต่จุดเริ่มจนถึงจุดกางเต็นท์รวมแล้วยาวถึง 11 กิโลเมตรเลยทีเดียว (รวมไป-กลับก็ 22 กิโลเมตร!) จึงต้องฟิตร่างกายก่อนไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องเดินไกล แต่พอขึ้นไปถึงเนินโล้นหลวงที่มองลงไปเห็นทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของขุนเขาจำนวนนับไม่ถ้วนที่เรียงรายซ้อนกัน ทั้งยังมีโอกาสเห็นทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา รับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง และฟินไปอีกนาน! 

4. ชื่นชมความอลังการของ ‘น้ำตกตาดวิมานทิพย์’ 

น้ำตกตาดวิมานทิพย์ ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ที่กินพื้นที่ของจังหวัดบึงกาฬและนครพนม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักเดินป่าสายผจญภัยไม่ควรพลาด เพราะไฮไลต์ของที่นี่คือน้ำตกสูง 7 ชั้น รวม 70 เมตร โดยเราสามารถเดินทางไปชื่นชมความยิ่งใหญ่สุดอลังการนี้ได้เฉพาะช่วงฝนตกหนักเท่านั้น เนื่องจากเป็นภูเขาหินทราย จึงไม่มีพื้นที่สำหรับกักเก็บน้ำ หากฝนทิ้งช่วง ก็จะไม่มีภาพน้ำตกไหลผ่านแต่ละชั้นหินให้เราได้เห็นกัน นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสความเขียวขจีของเหล่าต้นไม้น้อยใหญ่ในป่าอุดมสมบูรณ์ ถ้าใครจะไปควรวางแผนล่วงหน้าดีๆ และเช็คข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อุทยานให้เรียบร้อยก่อนนะ จะได้ไม่เสียเที่ยว? 

5. เพลินไปกับพืชพรรณนานาชนิดบน ‘เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา’ 

สำหรับสายชิลล์ที่อยากดื่มด่ำความงามและความสดชื่นของธรรมชาติแบบจัดเต็ม ต้องที่นี่เลย เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา บนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยระยะทางที่ยาวเพียง 300 เมตร แถมเดินสบายบนสะพานไม้และทางเดินที่ปูไว้อย่างดี และตลอดทางเดินนั้นมีต้นไม้หลากสายพันธุ์ขนาบสองข้างทาง พร้อมให้เรียนรู้ถึงระบบนิเวศและชื่นชมความงามอย่างจุใจ ทั้งยังมีพรรณไม้ท้องถิ่นอย่างกุหลาบพันปีและมอสข้าวตอกฤาษี ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลาเข้าไปในป่าสมัยโบราณ ยิ่งไปเยือนช่วงหน้าฝนแบบนี้ บรรยากาศของที่นี่จะดีเป็นพิเศษจากป่าไม้สุดชุ่มชื้นและหมอกจางๆ ที่สร้างความรู้สึกเย็นทั้งกายและใจ? 

ทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่า แม้ในช่วงหน้าฝน เราก็ไม่ต้องหลบอยู่แต่ในบ้านให้เหงาใจ เพราะมีหลายสถานที่ในไทยที่ยิ่งฝนตกก็ยิ่งสวย ลองชวนเพื่อนออกไปผ่อนคลายกายใจให้ป่าเขาเยียวยา เราจะได้คืนความกระปรี้กระเปร่าให้กับชีวิต แถมระหว่างเดินทางอาจได้พบแรงบันดาลใจ ไม่ก็เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่เรานึกไม่ถึงมาก่อน รู้อย่างนี้แล้วก็เตรียมตัวจัดทริปไปชาร์จพลังใจ พร้อมเปิดหูเปิดตารับโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตกันเถอะ