ลงทุนกับเราตั้งเป้าได้เป็นล้าน : LTF เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า
ปลายปีช่วงเวลาแห่งการแสวงหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะช่วยในการลดหย่อนภาษี เรามี Step ง่ายๆ ในการคัดเลือก LTF มาฝาก...คุ้ม ไม่คุ้มดูอย่างไร เข้าใจก่อนเลือกซื้อ การเปรียบเทียบกอง LTF และซื้ออย่างไร
1. คุ้ม-ไม่คุ้ม ดูอย่างไร
ก่อนตัดสินใจซื้อ LTF เราควรพิจารณาก่อนว่า ณ ฐานภาษีที่เราเสียอยู่ปัจจุบัน เราควรที่จะซื้อ LTF เพื่อลดหย่อนภาษีหรือไม่ เนื่องจากการซื้อ LTF นั้น ถือเป็นการ Lock เงินระยะขั้นต่ำ 7 ปี (ปฏิทิน) แม้หลายคนจะพิจารณาที่ 5 ปี ในทางปฏิบัติก็ตาม โดยฐานภาษีที่แนะนำว่าสมควรซื้อ LTF เพื่อลดหย่อนภาษี คือ ฐานภาษีที่ 15% ขึ้นไป
2. เข้าใจก่อนเลือกซื้อ
ก่อนเลือกซื้อ เราควรต้องทำความเข้าใจถึงลักษณะของ LTF เสียก่อน LTF (Long Term Equity Fund) หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 70% ขึ้นไป อีกทั้งยังมีลักษณะของการ ปันผลและไม่ปันผล ซึ่งเราต้องเลือกในลักษณะที่เหมาะสมกับความต้องการของเราและเข้าใจถึงความเสี่ยงด้านการลงทุนที่จะเกิดขึ้นด้วย
3. การเปรียบเทียบกอง LTF
การพิจารณาเปรียบเทียบ LTF พิจารณาง่ายๆ จาก
• ผลประกอบการย้อนหลังของกองทุน (Past Performance) 3-5 ปี
• การเทียบกับ Benchmark หรือโดยปกติก็คือการเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุน (Total Return)ควรสูงกว่า SET Index
• Morning Star Rating เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยในการเปรียบเทียบ โดยควรพิจารณากอง LTF ที่ได้ Morning Star 4 ดาวขึ้นไป
4. ซื้ออย่างไร
โดยปกติการซื้อ LTF ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ผมแนะนำการซื้อในแบบ Dollar Cost Average หรือแบบการทยอยซื้อเก็บตั้งแต่ต้นปี เพื่อเฉลี่ยต้นทุน แต่หลายคนอาจลืมที่จะคิดถึง LTF ตั้งแต่ต้นปี ปลายปีก็จะมาตามเก็บทีเดียว ยังไงก็ตาม อีก 2 เดือน ยังพอมีเวลา จัดเฉลี่ยเก็บสัก 2 ครั้งก็ยังดี
หวังว่าทุกท่านจะได้แนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อ LTF กันบ้าง ขอให้สนุกกับการลงทุนนะครับ
บทความโดย
ดร.เมธี จันทวิมล
ผู้อำนวยการอาวุโส สายพัฒนาระบบงาน ช่องทางขายและผลิตภัณฑ์
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)