Merry Crisis and a Happy New Fear 2021
เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นเพื่อนต่างชาติโพสต์ Status นี้บน Facebook ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีความสุขเพราะได้ฉลองปีใหม่กับครอบครัวและคนที่เรารัก แต่ก็เป็นอีกครั้งที่โควิด-19 กลับมาอยู่กับคนไทยอีกครั้ง ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยแปลกใจเพราะคิดอยู่แล้วว่ามันต้องกลับมา เพียงแต่รอว่าเมื่อไหร่และจะรุนแรงขนาดไหน คำถามถัดมา... เมื่อพวกเราเคยมีประสบการณ์กับโควิด-19 แล้ว สิ่งใดควรรู้เพิ่มเติมเพื่อเตรียมการรับมือวิกฤตระลอกสอง โดยข้อปฏิบัติแบบมาตรฐานใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง คงไม่ใช่สิ่งที่ต้องพูดย้ำในบทความนี้
Covid-19 เป็นโรคจากไวรัสประเภทหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากภูมิคุ้มกันเสื่อมสภาพ
ทำไมคนบางคนติดโควิดแล้วมีอาการ ทำไมบางคนติดเชื้อแต่ไม่มีอาการป่วยเลย เหตุการณ์บนเรือสำราญที่ญี่ปุ่น คนอยู่ร่วมกันทั้งหมด ทำไมทุกคนที่อยู่บนเรือซึ่งเป็นพื้นที่ปิดควรติดเชื้อและมีอาการ แต่ในความเป็นจริงมีเพียงบางคนที่ติดเชื้อ และยิ่งน้อยไปอีกสำหรับบางคนที่มีอาการ คำถามคือ เพราะอะไร สิ่งที่น่าสนใจคือ คนทุกคนมีสภาวะภูมิคุ้มกันธรรมชาติต่อโรคติดเชื้อทุกโรคตามธรรมชาติ ที่เราเรียกว่า Immunity ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้เอง และแต่ละคนมีภูมิคุ้มกันต่อโรคติดเชื้อที่ไม่เท่ากัน
ภูมิคุ้มกันของเรา สู้ทุกโรคได้ ร่างกายของคนเรามี Cell ภูมิคุ้มกันที่เรียกว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่หลายชนิด แต่จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ พบว่า Cell ภูมิคุ้มกันที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส Covid-19 คือเซลล์เม็ดลือดขาวประเภท T-Cell ซึ่งปริมาณของ T-Cell ในร่างกายมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญกับความสามารถในการรับมือกับไวรัส Covid-19 จากการศึกษาพบว่าคนที่ติด Covid-19 แล้วมีอาการรุนแรง มีปริมาณของ T-Cell น้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ
การทำงานของ T Cell เป็นการทำงานร่วมกันเป็นทีมโดยเริ่มจาก Helper T Cell ไปจับกับ Cell ที่ติดเชื้อและหลั่งสาร Cytokine ต่างๆ ไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวทั้ง Macrophage, Granulocytes, B Cell รวมถึง Killer T Cell ซึ่งมีหน้าที่กำจัด Cell ที่ติดเชื้อ และตัวสุดท้ายที่มีความสำคัญมากก็คือ Memory T Cell ทำหน้าที่คล้ายวัคซีนคือจดจำลักษณะเฉพาะของสิ่งแปลกปลอมหรือไวรัสชนิดต่างๆ ที่ถูกกำจัดไปแล้ว และเมื่อร่างกายได้รับไวรัสชนิดนั้นเข้ามาอีกก็จะสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว
เรามีวิธีดูแลภูมิคุ้มกัน (Immunity) ของเราให้ดีขึ้น เพราะหากเราโชคร้ายรับเชื้อเข้ามา อาจจะมีอาการของโรคน้อย หรือไม่แสดงอาการของโรคเลย ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย แยกเป็น 3 แกนหลัก
1. อาหารดีที่ควรเพิ่ม – อาหารที่ควรงด
อาหารดีที่ควรเพิ่ม
เลือกแหล่งอาหารที่ดี มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ผักใบเขียว ผักชี คะน้า มะระขี้นก บรอกโคลี พริกหวาน เลือกกินอาหารที่ปล่อยพลังงานช้า เช่น ข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช ผลไม้วิตามินซีสูงอย่างฝรั่ง มะขามป้อม องุ่น แอปเปิ้ล
อาหารที่ควรงดหรือลด
น้ำตาลและไขมัน เพราะเป็นสาเหตุกระตุ้นการอักเสบ (Inflammation) ในร่างกาย ซึ่งมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง อาหารเหล่านี้ได้แก่ ของหวาน นม เนย ขนมปัง น้ำตาล ช็อกโกแลต อาหารแปรรูป รวมถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
2. นอนดี - ออกกำลังดี
การนอนหลับที่ดี
ไม่ใช่แค่จำนวนชั่วโมงที่นอนพอเพียง แต่ยังหมายถึงการมีนอนที่มีคุณภาพ หลับลึก ไม่ตื่นกลางดึก ตัวช่วยที่ทำให้ประสิทธิภาพการนอนดีขึ้นคือ เมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากต่อมไพเนียลที่ร่างกายสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่หลั่งน้อยลงในผู้สูงอายุ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับคนที่กินเมลาโทนินเสริมเพื่อช่วยเรื่องการนอนจะมีโอกาสที่ไวรัสโควิดเจริญเติบโตได้น้อยกว่า และมีอัตราการตายน้อยกว่า ซึ่งช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ติดโควิด-19 ก็ได้รับเมลาโทนินนอกเหนือจากยาอื่นๆ ที่รักษา
ออกกำลังกาย
แม้ว่าจะไม่สามารถไปฟิตเนสได้ แต่การออกกำลังกายยังจำเป็นสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกัน ลองหาวิธีออกกำลังกายได้ง่ายๆ ภายในบ้าน อย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ เช่น โยคะ กระโดดเชือก ยกน้ำหนักเบาๆ การออกกำลังกายเพิ่มการหมุนเวียนของเลือดโดยรวม ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cell) ถูกหมุนเวียนไปยังเซลล์ทั้งร่างกาย และมีความสามารถในการเก็บกินเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอมมากขึ้น
3.วิตามิน อาหารเสริม และยา
วิตามิน C
ช่วยในการทำงานของเม็ดเลือดขาวและกระบวนการทำลายเชื้อโรค มีความสำคัญในการสร้าง interferon alpha และ beta (มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส และมีคุณสมบัติเป็น Immune-modulator) วิตามินซีอาจทำให้ระยะของโรคสั้นลงและลดความรุนแรงของอาการได้
วิตามิน D
สิ่งที่เราเคยรู้คือวิตามิน D มาจากการสังเคราะห์ของร่างกายเมื่อโดนแดด มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์กระดูกและฟัน แต่วิตามิน D ยังมีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Immune System) โดยวิตามิน D จะวิ่งไปจับกับตัวรับ (Vitamin D receptor) ที่เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ (B cell, T cell, and APCs) เพื่อไปยับยั้งการสร้างสารก่อการอักเสบ (pro-inflammatory cytokines) ที่ผลิตจากเม็ดเลือดขาวที่ทำงานผิดเพี้ยน และยังไปกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวประเภทที่ดี (Regulatory T cells) ช่วยคุมการทำงาน (inhibit Th17-response) ไม่ให้เม็ดเลือดขาวไปทำร้ายเนื้อเยื่อปกติของร่างกายอีกทางหนึ่งด้วย
ในงานวิจัยมีการระบุว่าการเสริมวิตามินดี (Vitamin D supplementation) ในคนทั่วไป มีประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 และหากว่าไลฟ์สไตล์เราไม่เอื้ออำนวยสำหรับการโดนแดด เราสามารถรับประทานวิตามิน D ในรูปแบบอาหารเสริมได้ โดยแนะนำเป็น Vitamin D3
Prebiotic และ Probiotic
Pro-Biotic คือจุลินทรีย์ที่ดีในร่างกายของมนุษย์ การเติมจุลินทรีย์ที่ดีเพิ่มเข้าสู่ร่างกาย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพิ่มขึ้น เพราะ 70% ของภูมิคุ้มกันร่างกายอยู่ที่ลำไส้ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สำคัญอื่นๆ กับกระบวนการในร่างกายอีกมาก (โดยจะขอกล่าวถึงประโยชน์ของ Pro-Biotic ในบทความถัดไป) Pro-Biotic จึงเป็นสุดยอดจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แหล่งอาหารธรรมชาติของ Pro-Biotic ได้แก่ กิมจิ นัตโตะ เต้าเจี้ยว เทมเป้ หรือขนมไทยๆ อย่าง ข้าวหมาก คือแหล่ง Pro-Biotic ชั้นดี
นอกจากนี้การดูแลให้ Pro-Biotic สามารถเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีอาหารของจุลินทรีย์ ซึ่งก็คือ Pre-Biotic ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของแบคทีเรีย พบได้ในหัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ
Zinc
มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานปกติของระบบภูมิต้านทาน ภาวะขาดแร่ธาตุสังกะสีอาจส่งผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาวหลายชนิด ทั้ง T-Lymphocyte, Macrophage, Neutrophils ช่วยในการฟื้นตัวจากการติดเชื้อจากไวรัส ถูกใช้เพื่อเร่งระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านการเพิ่มขึ้นของปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกาย (Antiviral) ช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาของการเป็นหวัด และโรคไข้เลือดออก
ยา
ควรระวังการใช้ยาบางชนิดพร่ำเพรื่อเกินความจำเป็น เช่น ยาลดกรด Proton Pump Inhibitor, ยาแก้อักเสบ กลุ่มสเตียรอยด์, ยาปฏิชีวนะ Antibiotic, การใช้ยาเหล่านี้จะกดภูมิคุ้มกันและทำลายจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ลดภูมิคุ้มกันในร่างกาย
งานวิจัยเกี่ยวกับโควิด-19 มีให้เห็นเรื่อยๆ แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบและยังมีการทดลองทางคลินิกกันอยู่ทั่วโลก แต่ทั้งนี้หากเราสามารถดูแลภูมิคุ้มกันของเราทุกคนให้ดี เหมือนบำรุงรากแก้วต้นไม้ให้แข็งแรง แม้ว่าตอนนี้ลมจะแรงพายุมา แต่หากรากแก้วแข็งแรงยึดลำต้นกิ่งใบ เราทุกคนก็สามารถอยู่ได้อย่างสงบใจ แม้ว่าภัยจะอยู่ใกล้ตัว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0378512220303467
https://www.komchadluek.net/news/regional/423388
https://www.bbc.com/news/health-54418464
https://www.bbc.com/thai/international-53523862
https://www.thrivewellnessth.com/post/vitamin-d-immune